5 เทคนิค ความรู้เบื้องต้นในการเลือกซื้อวาล์วน้ำ

5 เทคนิค ความรู้เบื้องต้นในการเลือกซื้อวาล์วน้ำ

วาล์วน้ำ เป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบท่อ ไม่ว่าจะในงานบ้าน ระบบอาคาร หรือโรงงานอุตสาหกรรม วาล์วทำหน้าที่ควบคุมการเปิด-ปิด หรือปรับอัตราการไหลของของไหลให้เหมาะสมกับการใช้งาน หากเลือกผิดประเภท หรือใช้ผิดตำแหน่ง อาจส่งผลให้ระบบทำงานไม่มีประสิทธิภาพ หรือเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก “5 เทคนิคพื้นฐานที่ควรทราบ เพื่อให้เลือกซื้อได้อย่างมืออาชีพกัน

1. รู้จักประเภทของวาล์วน้ำให้ชัดเจน

ข้อแรก คือการทำความเข้าใจก่อนว่า วาล์วน้ำมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละชนิดมีหน้าที่และลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกซื้อจึงต้องเลือกให้เหมาะกับการใช้งานด้วย โดยประเภทที่พบบ่อยของวาล์วน้ำ มีดังนี้

Ball Valve : เปิด-ปิดได้อย่างรวดเร็ว เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
Gate Valve : เหมาะสำหรับการเปิด-ปิดแบบเต็มระบบ ไม่เหมาะกับการควบคุมอัตราการไหล
Globe Valve : ใช้ควบคุมอัตราการไหลได้แม่นยำ เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียด
Check Valve : ช่วยป้องกันการไหลย้อนกลับของของไหล
Butterfly Valve : ใช้ควบคุมการไหลในท่อขนาดใหญ่ ติดตั้งง่าย ราคาย่อมเยา

ดังนั้นก่อนซื้อ ควรสอบถามให้แน่ใจว่าเป็นวาล์วชนิดใด และเหมาะกับระบบที่คุณจะใช้งานหรือไม่ เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะกับการใช้งานและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

2. พิจารณาประเภทของของไหลในระบบ

ระบบวาล์วนั้นต้องใช้งานร่วมกับของไหลที่ไหลผ่านวาล์ว ซึ่งของไหลนั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นน้ำสะอาดเสมอไป อาจเป็นได้ทั้ง น้ำร้อน น้ำเย็น น้ำที่มีตะกอนหรือสารเคมีเจือปน แม้แต่การใช้กับระบบน้ำเสียหรือน้ำหมุนเวียนในระบบอุตสาหกรรมของไหล แต่ละประเภทต้องการวัสดุวาล์วและซีลที่แตกต่างกัน เช่น น้ำที่มีความร้อนสูงควรใช้วาล์วที่ทนความร้อนได้สูง อย่างทองเหลืองหรือสแตนเล และของไหลที่มีสารเคมี ควรเลือกวาล์วที่มีซับในเป็น Teflon (PTFE) หรือวัสดุป้องกันการกัดกร่อน

3. ตรวจสอบแรงดันและอุณหภูมิที่ใช้งาน

วาล์วแต่ละรุ่นมีขีดจำกัดในการรับแรงดันและอุณหภูมิ หากเลือกไม่เหมาะสมอาจทำให้วาล์วรั่วซึมหรือเสียหายได้เร็ว โดยมีสิ่งที่ควรตรวจสอบ ดังนี้

PN Rating / Class Rating : คือค่าความดันที่วาล์วรับได้ เช่น PN10, PN16
อุณหภูมิสูงสุดที่ใช้งานได้ : เช่น วาล์วที่ทนอุณหภูมิได้สูงสุด 120°C หรือ 220°C เป็นต้น

ควรเลือกวาล์วที่รับแรงดันได้สูงกว่าความต้องการจริงเล็กน้อย เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งาน

4. วัสดุของวาล์วมีผลต่อความทนทาน

วัสดุของตัววาล์วและวัสดุของซีล เป็นอีกหนึ่งตัวกำหนดอายุการใช้งานและความเหมาะสมกับของไหลแต่ละประเภท โดยสรุปได้ ดังนี้

ทองเหลือง (Brass) : ทนการกัดกร่อนดี ใช้ได้กับน้ำประปาทั่วไป
เหล็กหล่อ (Cast Iron) : เหมาะกับท่อขนาดใหญ่ ทนแรงดันได้ดี
สแตนเล(Stainless Steel) : ทนต่อสนิมและสารเคมีสูง เหมาะกับอุตสาหกรรมอาหารหรือเคมี
PVC / UPVC : น้ำหนักเบา ราคาย่อมเยา เหมาะกับระบบน้ำทั่วไป

สิ่งสำคัญอีกอย่างก่อนเลือกซื้อ คือ อย่าลืมตรวจสอบวัสดุซีลด้วย เช่น EPDM, NBR, PTFE เพราะเป็นจุดที่เสื่อมสภาพเร็วที่สุด

5. ตำแหน่งติดตั้งและรูปแบบการควบคุม

ตำแหน่งที่ติดตั้งวาล์วมีผลต่อการเลือกประเภทและรูปแบบควบคุม เช่น วาล์วที่อยู่ในจุดที่เข้าถึงยาก ควรเลือกแบบมีคันโยกยาว หรือแบบที่ควบคุมจากระยะไกลได้ หากต้องการระบบอัตโนมัติควรเลือกวาล์วที่มี ระบบควบคุมไฟฟ้า หรือระบบลม สำหรับงานที่ต้องเปิด-ปิดเป็นประจำ ควรเลือกวาล์วที่มีอายุการใช้งานสูงและไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อย

หากคุณกำลังมองหาวาล์วคุณภาพสูง สำหรับระบบสูบน้ำและงานประปา ทั้งภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม หรือการใช้งานทั่วไป ทีมงานของ Asia Pacific Supply ยินดีให้คำแนะนำ ด้วยประสบการณ์ในการนำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ในระบบวาล์วมากว่า 29 ปี ช่วยให้คุณเลือกซื้อได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด