วิธีใช้งาน “วาล์น้ำปีกผีเสื้อ” ทำอย่างไรให้ใช้งานได้นานๆ

วิธีการใช้งานปีกผีเสื้อ (Butterfly Valve) ทำอย่างไรให้ใช้งานได้นาน

ปีกผีเสื้อ (Butterfly Valve) เป็นวาล์วควบคุมการไหลที่ได้รับความนิยมในระบบอุตสาหกรรม น้ำมัน ก๊าซ และระบบประปา เนื่องจากมีโครงสร้างที่เรียบง่าย ใช้งานง่าย และมีต้นทุนต่ำกว่าวาล์วประเภทอื่น แต่การใช้ Butterfly Valve ให้ใช้งานได้ยาวนานและมีประสิทธิภาพสูงสุด จำเป็นต้องใช้งานและดูแลรักษาอย่างถูกต้องด้วย

ในบทความนี้เรามีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับวิธีการใช้งานวาล์วปีกผีเสื้อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และรองรับกับการใช้งานได้ในระยะยาวมาบอกกัน มีอะไรบ้างมาชมไปพร้อมกันเลย

  1. เลือกประเภท Butterfly Valve ให้เหมาะสมกับงาน

ปีกผีเสื้อมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทนั้นออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • วาล์วปีกผีเสื้อชนิด Wafer : ใช้สำหรับระบบที่มีแรงดันต่ำ-ปานกลาง ติดตั้งง่าย
  • วาล์วปีกผีเสื้อชนิด Lug : เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการการถอดเปลี่ยนโดยไม่ต้องหยุดระบบทั้งหมด
  • วาล์วปีกผีเสื้อแบบ Double Offset และ Triple Offset : เหมาะสำหรับระบบที่มีแรงดันสูง ลดการเสียดสี และยืดอายุการใช้งาน

การเลือกใช้ butterfly valve ที่เหมาะสมกับแรงดัน อุณหภูมิ และประเภทของการทำงานจะช่วยให้วาล์วทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

  1. ติดตั้ง Butterfly Valve อย่างถูกต้อง

การติดตั้งที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้วาล์วทำงานผิดปกติหรือเสียหายเร็วกว่าปกติ ทั้งนี้ ก่อนติดตั้งวาล์วปีกผีเสื้อ ควรปฏิบัติตามแนวทางดังนี้

  • ตรวจสอบขนาดหน้าแปลน ให้ตรงกับวาล์วก่อนติดตั้ง
  • ติดตั้งให้มีระยะห่างที่เหมาะสม เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเปิด-ปิดวาล์ว
  • หลีกเลี่ยงการขันน็อตแน่นเกินไป เพราะอาจทำให้ตัววาล์วบิดเบี้ยวและทำงานผิดปกติ
  • ตรวจสอบทิศทางการไหลของของไหล ตามคำแนะนำของผู้ผลิต
  1. ใช้งาน Butterfly Valve อย่างถูกต้อง

เพื่อป้องกันการสึกหรอและการเสียหาย ควรใช้งาน butterfly valve ให้ถูกวิธี โดยการใช้งานวาล์วปีกผีเสื้อที่เหมาะสมและช่วยลดความเสียหายได้ในระยะยาว มีดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการเปิด-ปิดอย่างรวดเร็ว เพราะอาจทำให้แรงดันเปลี่ยนแปลงฉับพลันและทำให้วาล์วเสียหาย
  • ห้ามใช้เกินพิกัดแรงดันและอุณหภูมิที่กำหนด ควรตรวจสอบสเปกของวาล์วก่อนใช้งาน
  • เปิด-ปิดวาล์วอย่างสม่ำเสมอ หากเป็นระบบที่ไม่ได้ใช้งานบ่อย การปล่อยให้วาล์วอยู่กับที่นาน ๆ อาจทำให้เกิดตะกอนสะสมและส่งผลต่อการทำงาน
  1. การบำรุงรักษา Butterfly Valve เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

การตรวจสอบและทำความสะอาดเป็นประจำนอกจากจะช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำงานของระบบอยู่ในระดับที่ดีแล้ว ยังเป็นวิธีที่ช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับวาล์วปีกผีเสื้อ โดยวิธีตรวจสอบและบำรุงรักษา ทำได้ดังนี้

การตรวจสอบสภาพของ Butterfly Valve

  • ตรวจสอบการรั่วซึมของวาล์วเป็นระยะ
  • ทำความสะอาดตัววาล์วและซีลยางเพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรก
  • หากใช้งานในระบบที่มีสารเคมี ให้ตรวจสอบความเข้ากันได้ของวัสดุวาล์วกับของไหล

การหล่อลื่นซีลและชิ้นส่วนเคลื่อนที่

  • หากเป็น butterfly valve แบบ Manual หรือ Gear Operated ควรมีการหล่อลื่นแกนหมุนและส่วนที่เคลื่อนที่เป็นระยะ
  • หลีกเลี่ยงการใช้สารหล่อลื่นที่ไม่เหมาะสมกับวัสดุของวาล์ว

การเปลี่ยนอะไหล่ที่เสื่อมสภาพ

  • หากพบว่าซีลหรือไดอะแฟรมมีการเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนใหม่เพื่อป้องกันการรั่วซึม
  • ตรวจสอบแผ่นวาล์วและแกนหมุน หากพบรอยสึกหรอหรือการกัดกร่อน ควรเปลี่ยนใหม่เพื่อให้วาล์วทำงานได้ดี
  1. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ Butterfly Valve เสื่อมสภาพเร็ว

การใช้งานที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้วาล์วเสียหายก่อนเวลาอันควร แม้ว่าวาล์วปีกผีเสื้อจะมีคุณสมบัติที่ค่อนข้างยืดหยุ่นต่อการใช้งาน แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยต่อไปนี้

  • แรงดันที่เกินขีดจำกัดของวาล์ว
  • การไหลย้อนกลับที่ไม่มีตัวกันกลับ (Check Valve)
  • การสะสมของสิ่งสกปรกและตะกอนภายในวาล์ว
  • การใช้วาล์วในอุณหภูมิที่สูงเกินไปโดยไม่มีฉนวนกันความร้อน
  • การเปิด-ปิดวาล์วในสภาวะที่เกิดค้อนน้ำ (Water Hammer) ซึ่งอาจทำให้วาล์วเสียหายอย่างรวดเร็ว

การใช้งาน Butterfly Valve ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน จำเป็นต้องเริ่มจาก การเลือกวาล์วที่เหมาะสม ติดตั้งอย่างถูกต้อง ใช้งานอย่างระมัดระวัง และมีการบำรุงรักษาเป็นประจำ หากปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ วาล์วจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดโอกาสในการเกิดความเสียหาย และช่วยประหยัดต้นทุนในการซ่อมแซมและเปลี่ยนอะไหล่ในระยะยาว และหากใครสนใจอยากซื้อวาล์วน้ำที่มีคุณภาพและนำเข้าจากแบรนด์ชั้นนำ สามารถเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษากับ Asia-Pacific Supply ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าสินค้าวาล์วน้ำอุตสาหกรรมกว่า 29 ปี